วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

กรดไหลย้อน ภัยอันตรายใกล้ตัว ต้องรีบรักษา มีคำแนะนำ

ก่อนอื่นนั้นเรามาทำความเข้าใจกับโรคนี้ก่อนนะครับ ว่ามันคือโรคอะไร และ อันตรายแค่ไหน?

โรคกรดไหลย้อน ( Gastroesophageal Reflux Disease )
              หมายถึง ภาวะที่กรดในกระเพาะไหลย้อนมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร และลุกลามไปเรื่อยๆ ถ้าเข้าปอดก็อาจทำให้ปอดอักเสบ และติดเชื้อซึ่งถ้าไม่รีบรักษา ก็อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้ ซึ่งโรคนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ยิ่งไปกว่านั้น โรคนี้อาจทำให้เป็นแผลรุนแรงจนตีบ หรือทำให้เกิดเป็นมะเร็งในหลอดอาหารได้ จึงทำให้เป็นปัญหากวนใจของหลายๆคน ในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเวลานอนและก็เวลาตื่น เป็นอย่างมาก ซึ่งท่านไหนที่ยังไม่รู้หรือสงสัยว่า ตัวเองอาจจะเป็นโรคนี้อยู่ ท่านลองสังเกตุ อาการของท่าน ดังนี้

อาการของกรดไหลย้อน
  • ปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอก และ ลิ้นปี่ ตรงกลางหน้าอก หรือที่เรียกว่าร้อนใน (Heart Burn) บางครั้งอาจจะร้อนขึ้นคอ ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหาร
  • รู้สึกเหมือนกับว่ามีก้อนอะไรติดอยู่ที่คอ กลืนอาหารลำบาก ติดๆขัดๆ
  • เจ็บคอหรือแสบลิ้น ช่วงตอนเช้า
  • รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี  มีรสเปรี้ยวของกรดใน คอหรือปาก ออกมา
  • มีเสมหะอยู่ในคอ หรือ ระคายเคืองอยู่ตลอดเวลา
  • มีอาการเรอเปรี้ยวบ่อยๆ คลื่นไส้ บางครั้งก็อาเจียน
  • รู้สึกจุกแน่นที่หน้าอก ที่ไม่ได้เกิดจากโรคหัวใจ
  • มีอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง
  • บางครั้งก็รู้สึกปวดหลัง ร่วมด้วย
  • เสียงแหบเรื้อรัง หรือ แหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติจากเดิม
  • ไอเรื้อรัง รู้สึกสำลักในเวลากลางคืน
  • เป็นโรคหืดที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาตามปกติ
  • เป็นโรคปอดอักเสบ เป็นๆหายๆ
  • มีปัญหากับระบบขับถ่าย ท้องผูก ถ่ายยาก
เมื่อท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ลองกลับมาดูที่ตัวท่านเองว่า มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้บางไหม...ถ้ายังไม่แน่ใจลองมาดู สาเหตุของโรคนี้บ้างว่า มันเกิดมาจากปัจจัยใด.?

สาเหตุของกรดไหลย้อน
  • เป็นผลพ่วงมาจาก โรคกระเพาะอาหาร ที่เป็นมานาน
  • การดื่มสุรา
  • โรคอ้วน
  • การตั้งครรภ์
  • การสูบบุหรี่
  • ชอบทานอาหารรสจัด เช่น เปรี้ยว เผ็ด
  • ชอบทาน ช็อกโกแลต
  • ชอบทานอาหาร จำพวกของมัน ของทอด อาหารไขมันสูง
  • ชอบทาน หอม กระเทียม มะเขือเทศ
สาเหตุอื่นๆ
  • การรับประทานอาหารอิ่มจนเกินไปทำให้ หูรูดหลอดอาหารเปิดออกง่ายขึ้น
  • เวลารับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เอนกายลงนอนทันที (อันนี้แน่นอนสำหรับหลายๆคน)
  • อาการเครียดของหลายๆสาเหตุ
มาถึงตรงนี้ท่านคิดว่าตัวเอง อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้วหรือยัง ถ้าใช่ ท่านไม่กลัวจนเกินเหตุนะครับ ทำใจเย็นๆไว้ เพราะผมก็เคยเป็นมาก่อนครับ  มาลองดูวิธีรักษา กันดีกว่านะครับ

วิธีรักษาโรคกรดไหลย้อน

การรักษาด้วยยา
  • ยาลดกรด (Antacid) ลดความเป็นกรดของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
  • ยากระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร (Prokinetics)ช่วยการบีบตัวของกระเพาะอาหารให้เคลื่อนย้ายอาหารเร็วขึ้น
  • ยากลุ่ม H2 Reciptor Antagonists ออกฤทธิ์ยับยั้นฮีสตามีน ทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดลดลง
  • กลุ่มยับยั้ง Proton Pump Inhibitors:PPI ช่วยยับยั้งโปรตอนบั้มที่อยู่ในกระเพาะอาหารซึ่งเป็นกลไกขั้นสุดท้ายของการหลั่งกรด สามารถลดกรดได้อย่าสมบูรณ์
เมื่อใช้ยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็มีการตรวจเพิ่มเติมคือการ
- กลืนแป้งตรวจกระเพาะอาหาร
- การส่องกล้องตรวจกระเพาะ

การผ่าตัด

       เป็นวิธีผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล ซึ่งเป็นการผ่าตัดปรับแต่งกระเพาะอาหารและหูรูดกระเพาะอาหาร ซึ่งการผ่าตัดอาจทำให้อาการดีขึ้นและหาย หรืออาจจะแย่ลง อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อนอีกหรือไม่

        ซึ่งแน่นอนว่า ทุกคนคงไม่อยากต้องการรักษาโดยวิธีผ่าตัดแน่นอน ผมก็เช่นกัน เพราะโรคนี้ผมเคยเป็นมาแล้ว และแน่นอนว่า มันบั่นทอนสุขภาพ และกวนใจในการดำเนินชีวิตของผมอยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้ผมกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้แล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน จากการดูแลรักษาโดยที่ผมศึกษาเอาเอง อย่างเคร่งครัด คุณไม่จำเป็นจะต้องเชื่อและทำตามผมทั้งหมดนะครับ เพราะการดำเนินชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่ผมก็อยากให้คนที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่หายจากการทรมานในครั้งนี้เสียที เพราะผมเข้าใจถึงความเจ็บปวดของมัน และก็ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่ต้องการหายจากโรคนี้ มาดูกันว่าผมทำอย่างไรบ้าง?

เปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับ การกิน การนอน.
  • งดอาหารรสจัดทุกประเภท ทั้งเปรี้ยว เผ็ด มัน ไขมันสูง แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารอ่อนๆที่ทานง่าย ย่อยง่าย และก็ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ต้มจืด เป็นต้น
  • ทานอาหารน้อยๆ แต่ทานบ่อยๆ เช่น ทานไม่ต้องอิ่ม นิดเดียว แต่เปลี่ยนจาก 3 มื้อเป็น 4 มื้อ หรือ ทานพวกผักหรือผลไม้แทนเวลาหิว งดทานผลไม้รสเปรี้ยว
  • เมื่อทานอาหารเสร็จไม่ควรนอนทันที ควรเดินเล่น หรือนั่งดูทีวี ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือ ทำกิจกรรมอื่นๆ สัก 1 ชั่วโมงขึ้นไปแล้วค่อยนอน
  • บางคนชอบทานอาหารตอนดึก เสี่ยงต่อการกินแล้วก็นอนทันที หากจำเป็นต้องกินควรเลือกอาหารที่เป็นของร้อนๆ เพราะจะช่วยให้ย่อยเร็วขึ้น และก็ไม่ควรเข้านอนทันทีหลังทานเสร็จ
  • ควรนอนตะแคงซ้าย หรือทับด้านของหัวใจ เพราะไปศึกษาเจอว่า การนอนตะแคงขวา กระเพาะอาหารจะอยู่สูงกว่าหลอดอาหารทำให้มีแรงกดต่อหูรูดหลอดอาหาร จนเปิดกว้างออกทำให้กรดไหลย้อนออกได้
  • ไม่ควรนอนราบ ให้ลองปรับระดับของเตียงให้ศีรษะและลำตัวสูงขึ้น หรือเฉียงสักประมาณ 45 องศา
  • ไม่ใส่เสื้อผ้าหรือเข็มขัดรัดแน่นจนเกินไป
  • ควบคุมน้ำหนักและไม่ก้มหน้าหลังทานอาหารเสร็จ
  • บางคนเรอ แล้วมีเศษอาหารออกมาด้วย ควรงดการเรอเท่าที่จะทำได้ เพราะเรอออกมาแล้วมีเศษอาหารออกมา น้ำกรดก็จะออกมาด้วย
  • หาวิธีลดอาการเครียดให้ได้ แนะนำให้ ออกกำลังกาย ดูรายการตลก หนังตลก วาไรตี้โชว์ หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่ได้ใช้สมองคิดอะไรมาก
  • บางคนไปหาหมอมาแล้วได้ยามา ก็กินยาตามคำแนะนำของหมอร่วมด้วย ก็จะหายเร็วขึ้น
ใช้สมุนไพรพื้นบ้านช่วยในการรักษา ( รสชาติมันอาจจะแย่ แต่มันแน่เรื่องการรักษา )
  • ขมิ้นชัน   สรรพคุณ ช่วยลดไขมันในตับ สมานแผลภายในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ทำความความสะอาดลำไส้ เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งตับ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนัง กำจัดเชื้อราที่ปนเปื้อนมากับอาหารที่รับประทานเข้าไปและสะสมในร่างกายจนก่อตัวเป็นเซลล์มะเร็ง ช่วยขับน้ำนมให้สตรีหลังการคลอดบุตรได้ดี
วิธีใช้
- นำเอาหัวขมิ้นชัน มาล้างคัดเอาหัวใหญ่ๆ ฝานเป็นแผ่น เสร็จแล้วน้ำไปตากแห้งสัก 1-2 วัน แล้วจึงน้ำมาปั่นเป็นผง ขนาดรับประทานก็ประมาณ 1 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ผมมักจะดื่มก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง  เน้นมากต้องเป็นเวลานี้ 07.00-09.00 น.ไปศึกษามาแล้วว่าเวลานี้เป็นเวลาที่กะเพาะอาหารทำงานดีที่สุด ทำให้หายเร็วขึ้น เพราะรักษาได้ตรงจุด

    สำหรับหลายๆคนที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่ก็อย่าเพิ่งท้อ นะครับ ใช่อยู่ว่าต้องใช้เวลานานในการรักษา กว่าที่มันจะหายหรือดีขึ้น ดังนั้นการดูแลสุขภาพของตัวเราเองให้ดีที่สุด เป็นสิ่งที่เราควรต้องทำอย่างเป็นประจำนะครับ ดังสุภาษิตที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา " : "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ "
    สุดท้ายนี้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้กับท่านที่กำลังเป็นทุกข์อยู่ ขอให้พ้นทุกข์ และ มีความสุข ปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ด้วยเทอญ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น